UFABETWIN หลังสานสัมพันธ์ไทยอีกครั้ง : เรียนรู้นโยบายซาอุฯ ที่หวังเป็นศูนย์กลางโลกกีฬาในอนาคต

UFABETWIN

มวยปล้ำ WWE, มวยสากลชิงแชมป์โลก, ฟอร์มูล่า 1, เจ้าของทีม นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทั้งหมดที่กล่าวมาล้วนมีสิ่งหนึ่งที่เชื่อมโยงกัน … ประเทศซาอุดีอาระเบีย

ไม่เพียงเท่านั้น หากคุณ ๆ สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมาจะพบว่า ซาอุฯ ค่อย ๆ พลิกโฉมหน้าของประเทศขึ้นมาทีละนิด กับการให้สิทธิเสรีภาพแก่ประชาชนมากขึ้น และการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศไทย ที่ขาดหายไปกว่า 30 ปีก็ดูจะเข้าข่ายด้วย

เหตุใดทั้งหมดทั้งมวลถึงเชื่อมโยงกันได้ ? ขอพาทุกท่านไปดูการพลิกโฉมประเทศ โดยมีกีฬาเป็นส่วนสำคัญของประเทศซาอุดีอาระเบีย และเสียงวิจารณ์ซึ่งเกิดขึ้น หลังม่านที่คลุมฉากประเทศนี้ค่อย ๆ ถูกแง้มออกสู่สายตาชาวโลก

ประเทศที่โลกรู้จักจากน้ำมัน

เอ่ยถึงประเทศซาอุดีอาระเบีย เชื่อแน่ว่าสิ่งแรกที่หลายคนนึกถึง คงหนีไม่พ้น “น้ำมัน”

นี่คือประเทศที่ส่งออกน้ำมันมากที่สุดในโลก โดยข้อมูลในปี 2020 ระบุว่าซาอุฯ ส่งออกน้ำมันปีละมากกว่า 6.6 ล้านบาร์เรล สร้างมูลค่าการส่งออกถึง 90% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด

ด้วยเหตุนี้ ซาอุดีอาระเบียจึงเป็นประเทศที่พึ่งพาน้ำมันอย่างหนักเพื่อขับเคลื่อนประเทศ ทว่าราคาน้ำมันที่นับวันยิ่งผันผวน ประกอบกับนโยบายทางต่างประเทศที่ผิดพลาด ที่ซาอุฯ ตัดสินใจให้การสนับสนุนรัฐบาลเยเมนเมื่อปี 2015 ในการปราบปรามกลุ่มกบฏฮูตี ทว่าสงครามกลางเมืองในเยเมนซึ่งเริ่มต้นเมื่อปี 2014 กลับยืดเยื้อจนถึงทุกวันนี้

มุฮัมมัด บิน ซัลมาน อัล ซะอูด หรือที่โลกตะวันตกกล่าวขานในนามย่อ MBS มกุฎราชกุมาร, รองนายกรัฐมนตรี, รมว.กลาโหม, ประธานสภาเศรษฐกิจและการพัฒนา และสภาการเมืองและความมั่นคง ซึ่งขึ้นมามีบทบาทสำคัญในการปกครองตั้งแต่ปี 2015 หลังการขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์ ซัลมาน บิน อับดุลอะซิซ อัล ซะอูด จึงต้องแก้มือความผิดพลาดดังกล่าว ด้วยแผนการพัฒนาประเทศในเส้นทางใหม่

2030 จึงถือกำเนิดขึ้น

เปิดประเทศด้วยกีฬา

2030 คือ “เมกกะโปรเจกต์” ของซาอุดีอาระเบีย โดยมีเป้าหมายคือการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศเสียใหม่ จากที่พึ่งพาการส่งออกน้ำมันเป็นหลัก สู่การมีเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่หลากหลาย เช่นเดียวกับการสร้างความทันสมัยตามหลักสากลให้กับสังคมอนุรักษ์นิยมของประเทศนี้

โดยมี 3 เสาหลัก ประกอบด้วย

 

UFABETWIN

 

1. สร้างสังคมที่มีชีวิตชีวา ทั้งวิถีชีวิตแบบเมือง วัฒนธรรม ความบันเทิง และกีฬา เพื่อเป็นรากฐานสู่ความมั่งคั่งของประเทศ

2. เศรษฐกิจเฟื่องฟู ด้วยการสนับสนุนโอกาสและการจ้างงานให้กับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะผู้หญิง เพิ่มความสามารถในการแข่งขันระดับสากล การลงทุนสาธารณะ การลงทุนจากต่างประเทศ และการส่งออกสินค้าอื่นที่ไม่ใช่น้ำมัน

3. เป็นชาติที่ทะเยอทะยาน ด้วยการพึ่งพารายได้ที่ไม่ใช่น้ำมัน รัฐบาลทำงานมีประสิทธิภาพและตรวจสอบได้ ประชากรมีคุณภาพ มีบทบาทสำคัญต่อสังคม

การเปลี่ยนแปลงแรก ๆ ของประเทศซาอุดีอาระเบียที่ปรากฏสู่สายตาชาวโลก คงหนีไม่พ้นการเปลี่ยนแปลงในภาคสังคม วิถีชีวิตของประชาชน เมื่อซาอุฯ ออกกฎหมายอนุญาตให้ผู้หญิงสามารถขับรถได้ รวมถึงอนุญาตให้เปิดโรงภาพยนตร์ได้อีกครั้งในปี 2018 ซึ่งถือเป็นสัญญาณว่า ประเทศนี้ให้สิทธิเสรีภาพ และเปิดกว้างมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา

ไม่เพียงเท่านั้น ซาอุดีอาระเบีย ยังเปิดรับความสัมพันธ์กับนานาประเทศ ซึ่งการฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศไทย ซึ่งเคยส่งแรงงานจำนวนมากไปทำงานในซาอุฯ ก่อนที่คดีสังหารนักการทูต, คดีขโมยเพชรซาอุฯ รวมถึงคดีสังหาร มุฮัมมัด อัล-รูไวลีย์ นักธุรกิจที่มีสายสัมพันธ์กับราชวงศ์ซะอูด จะทำให้เกิดรอยร้าวจนความสัมพันธ์ถูกลดระดับ ที่เพิ่งเกิดขึ้นในปี 2022 หมาด ๆ ก็ดูจะเข้าข่ายนี้

อย่างไรก็ตาม การจะเผยโฉมว่าประเทศของตนพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยว และโอกาสแห่งการลงทุนจากทั่วทุกมุมโลก หลายครั้งก็ต้องมีอีเวนต์ที่แสดงออกถึงการเปิดตัวเอง และซาอุดีอาระเบียเลือก “กีฬา” เป็นสื่อ

นั่นทำให้เราได้เห็นสารพัดอีเวนต์กีฬาที่แวะเวียนมาจัดในดินแดนแห่งทะเลทรายนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้ง มวยปล้ำ WWE ที่จัดโชว์ในประเทศนี้มาตั้งแต่ปี 2014 และมีการจัดศึกใหญ่มาตั้งแต่ปี 2018 เป็นประจำทุกปี, มวยสากลชิงแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวต ภาคสองระหว่าง แอนโธนี่ โจชัว กับ แอนดี้ รุยซ์ จูเนียร์ เมื่อปี 2019, รถแข่ง ฟอร์มูล่า อี ที่เมือง ดิริยาห์ ซึ่งจัดมาตั้งแต่ปี 2018 รวมถึง รถแข่ง ฟอร์มูล่า 1 ที่ซาอุฯ ทุ่มทุนเนรมิตสตรีทเซอร์กิตในเมืองเจดดาห์ เปิดสังเวียนแข่งครั้งแรกไปเมื่อปลายปี 2021

แต่เหตุการณ์สำคัญที่ช่วยให้ประเทศซาอุดีอาระเบีย เปิดตัวสู่สายตาโลกด้วยกีฬาอย่างแท้จริง คงหนีไม่พ้นการที่ PIF กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติซาอุดีอาระเบีย ซื้อสโมสร นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งวงการฟุตบอลอังกฤษด้วยมูลค่า 305 ล้านปอนด์ หรือราว 14,000 ล้านบาท

ซึ่งมูลค่าทรัพย์สินของ PIF ผู้ถือหุ้น 80% ของสโมสร ที่มากถึง 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 17 ล้านล้านบาท ทำให้ทีมสาลิกาดง กลายเป็นสโมสรที่ “รวยที่สุดในโลก” ทันที

ไม่เพียงแค่กีฬาดั้งเดิมเท่านั้น PIF ยังบุกโลกอีสปอร์ต หรือการแข่งขันเกมด้วยเช่นกัน กับการเป็นกลุ่มทุนเบื้องหลังของ ที่ซื้อกิจการของ สององค์กรจัดการแข่งขันอีสปอร์ตชื่อดังระดับโลก ด้วยมูลค่ารวมกันถึง 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 50,000 ล้านบาทเลยทีเดียว

เสียงวิจารณ์เมื่อม่านถูกแย้ม

แม้การเปิดประเทศสู่สายตาชาวโลกของประเทศซาอุดีอาระเบีย จะตกเป็นเป้าสายตาของคนทั้งโลกด้วยความทึ่ง ทั้งเม็ดเงินมหาศาลที่ถูกทุ่มลงไป รวมถึงความอลังการงานสร้างแบบไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะรู้สึกดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้

 

UFABETWIN

 

และมุมมองคู่ขนานที่ว่านั้นก็คือ ซาอุดีอาระเบีย กำลังใช้กีฬาเป็นเครื่องมือในการฟอกขาวภาพลักษณ์ของประเทศ

นี่คือกลยุทธ์ปรับภาพลักษณ์ของประเทศให้ดูดีขึ้น เพื่อกลบเรื่องราวอันเลวร้ายหลังฉาก ซึ่งถูกใช้มาตั้งแต่สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 และยังคงมีหลายประเทศที่ใช้ได้ผลมาจนถึงทุกวันนี้

หลายสิ่งที่ประเทศซึ่งเน้นชูการจัดอีเวนต์กีฬารายการใหญ่มีคล้ายคลึงกัน คือเรื่องราวของการเมืองภายในประเทศ ที่ถูกรายงานถึงการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนอยู่บ่อยครั้ง และซาอุดีอาระเบียก็เช่นกัน

รัฐเศรษฐีน้ำมันแห่งนี้ ยังปกครองภายใต้ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชอิสลาม ที่เคร่งครัดในแนวคิดแบบอำนาจนิยม ซึ่งส่งผลต่อการลิดรอนสิทธิที่จะตั้งคำถาม หรือวิจารณ์แก่ประชาชนทั่วไป แถมยังมีแนวทางการลงโทษผู้กระทำผิด ที่สร้างเครื่องหมายคำถามแก่สากลโลก แม้ปัจจุบันมีการผ่อนปรนแล้ว แต่ก็ยังคงมีหลายสิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลง

และหนึ่งในเรื่องที่สร้างความอื้อฉาวให้กับประเทศซาอุดีอาระเบียมากที่สุด คงหนีไม่พ้นการหายตัวอย่างลึกลับ ก่อนจะเสียชีวิตของ ญามาล คอซุกกี นักข่าวที่ออกมาวิจารณ์การทำงานของราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเรื่องเกิดขึ้นระหว่างที่คอซุกกีเข้าไปติดต่อธุระในสถานทูตซาอุฯ ที่ประเทศตุรกี ซึ่ง มุฮัมมัด บิน ซัลมาน ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง จน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล องค์กรอิสระที่ดูแลเรื่องสิทธิมนุษยชน ออกมาเรียกร้องการคว่ำบาตรต่อซาอุดีอาระเบีย

“แม้ว่าจะมีความพยายามปฏิรูปเรื่องสิทธิสตรี ซาอุดีอาระเบียยังมีปัญหาเรื่องการปราบปรามผู้เรียกร้องสิทธิสตรี นักกิจกรรม นักกฎหมาย และผู้นับถือนิกายชีอะห์ ล้วนตกเป็นเป้าหมายทั้งสิ้น”

“ทั้งนี้ ยังไม่มีความยุติธรรมปรากฏหลังการฆาตกรรม ญามาล คอซุกกี รวมถึงการที่กองทหารของซาอุดีอาระเบีย รุกรานประเทศเยเมน และทำลายบ้านเรือน โรงพยาบาล ตลาดร้านค้า ตามอำเภอใจ จนก่อผลกระทบร้ายแรงแก่พลเรือนชาวเยเมน” นี่คือสิ่งที่ แอมเนสตี้ เปิดเผย

เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น รวมไปถึงเรื่องที่ ครือข่ายโทรทัศน์ของประเทศกาตาร์กล่าวหาว่า ซาอุดีอาระเบียได้สร้าง ขึ้นมาเพื่อขโมยสัญญาณถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก หลังแบน จากการออกอากาศ ส่งผลต่อทางซาอุฯ อย่างรุนแรงเช่นกัน เมื่อดีลการซื้อสโมสรนิวคาสเซิล ถูกยับยั้งจากสมาชิกของพรีเมียร์ลีก จนกลายเป็นความยืดเยื้อร่วม 2 ปี กว่าที่จะลุล่วง โดย ยาซิร อัล รุมัยยาน ผู้อำนวยการของ เข้ามารับตำแหน่งประธานสโมสรของทีมสาลิกาดง รวมถึงทางซาอุฯ ตัดสินใจฟื้นความสัมพันธ์กับกาตาร์ และยกเลิกการแบน

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่กล่าวมา ก็ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ซาอุดีอาระเบียต้องทำอยู่ดี เพราะไม่เพียงแต่ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง จะทำแผนการเปลี่ยนประเทศอย่างล่ำสันหลายโครงการ ทั้ง ซึ่งมีจุดมุ่งหมายคล้ายคลึงกันคือ พยายามลดการพึ่งพารายได้จากน้ำมัน เพิ่มการลงทุนในภาคส่วนอื่นๆ และการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนเท่านั้น เอฟเฟกต์จาก อาหรับสปริง การประท้วงที่นำมาซึ่งการปฏิวัติในหลายประเทศกลุ่มอาหรับเมื่อปี 2011-2012 นั้นยังคงอยู่ แม้สถานการณ์ในหลายประเทศดูเหมือนจะกลายเป็นนาฬิกาทวนเข็มกลับสู่จุดเดิมก็ตาม

นั่นทำให้หลาย ๆ ประเทศต้องเริ่มการเปลี่ยนแปลงสู่ความเป็นสากลด้วยตัวเองอย่างค่อยเป็นค่อยไป ชิงสร้างการเปลี่ยนแปลงเสียก่อนที่จะถูกบังคับให้เปลี่ยน เพื่อรักษาฐานอำนาจไว้นั่นเอง

ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา จึงเป็นเหตุผลที่เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในประเทศซาอุดีอาระเบียหลายอย่าง ทั้งภาคสังคม, ภาคการทูต รวมถึงการได้เห็นอีเวนต์กีฬารายการใหญ่หลายรายการ

และเราคงจะได้เห็นเรื่องราวเช่นนี้ ปะปนเสียงเรียกร้องถึงการปฏิรูปประเทศสู่ความเป็นสากลให้มากขึ้นแบบนี้ไปอีกหลายปีเลยทีเดียว

UFABETWIN