UFABETWINS การขอย้ายทีมของ ลิโอเนล เมสซี่ ถือเป็นเรื่องช็อคกันไปทั้งโลกไม่ใช่แค่เฉพาะในวงการลูกหนังเพราะแม้แต่คนที่ไม่ได้สนใจเรื่องของฟุตบอลก็ยังได้รับรู้ถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้
สตาร์ทีมชาติอาร์เจนติน่ากับ บาร์เซโลน่า กลายเป็นของคู่กันไปแล้ว เหมือนกับ “ช้อนคู่ส้อม” หรือ “ตะปูกับค้อน” กับระยะเวลา 20 ปีที่มาอยู่กับสโมสรตั้งแต่อายุเพียง 13 ปีเท่านั้น
วันแล้ววันเล่า ลิโอเนล เมสซี่ ค่อยๆซึมซับความเป็น “บาร์เซโลน่า” กระทั่งก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่และยกระดับขึ้นมาเป็นสุดยอดแข้งของโลก จนถูกยกย่องให้เป็น “เบอร์ 1” ของโลกฟุตบอล หรือจะบอกว่านี่คือนักเตะที่เก่งที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมาก็คงไม่มากจนเกินไป
นั่นทำให้ทุกคนมองว่ายังไง เมสซี่ ก็คงต้องอยู่ในถิ่นคัมป์ นูไปจนแขวนสตั๊ด หรืออย่างแย่ก็กลับไปปิดฉากกับ นีเวลล์ โอลด์ บอยส์ สโมสรเมื่อครั้งเป็นเยาวชนก่อนเดินทางมาสเปนก็เท่านั้น
กระทั่งเกิดเหตุการณ์อย่างที่ทุกคนได้ตามข่าวกันนั่นแหละ
แม้ว่าจะยังไม่มีข้อสรุปว่าสุดท้ายเจ้าตัวจะได้ย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า รึเปล่า แต่ก็มีหลายเหตุผลที่สามารถบอกได้ว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว
โอกาสสุดท้ายที่จะย้ายทีม
ในวัย 33 ปีแล้ว ลิโอเนล เมสซี่ อาจจะไม่มีโอกาสในการย้ายทีมครั้งใหญ่อีกแล้ว หากเลือกที่จะอยู่กับทีมหรือต่อสัญญาใหม่ออกไป
นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับทีมเมื่อปี 2001 กระทั่งก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่และประเดิมสนาม ปีแล้วปีเล่าที่ เมสซี่ โชว์ผลงานดีขึ้นและดีขึ้นจนกลายเป็นที่หวาดผวาของกองหลังคู่แข่ง
ด้วยผลงานอันย่ำแย่ของ “เจ้าบุญทุ่ม” รวมถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะการมาของ โรนัลด์ คูมัน ที่ถูกมองว่าเป็นตัวการที่ทำให้สตาร์ “ฟ้า-ขาว” ตัดสินใจอำลาทีม แต่ก็อาจจะไม่ทั้งหมด
อย่างที่บอกว่าด้วยอายุของ เมสซี่ ในปัจจุบันถือว่าเหลือเวลาไม่มากแล้วที่จะย้ายทีมและจะมีสโมสรไหนที่ยอมทุ่มเงินเพื่อให้ไปอยู่กับทีม ด้วยผลงานในตอนนี้ถือว่าอาจจะเป็นโค้งสุดท้ายที่จะย้ายทีม
แม้ว่าจะยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ก็อยู่ในช่วงอายุที่เหมาะสมอย่างที่สุดแล้ว
ประสบความสำเร็จในลีกอื่น
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้แฟนบอลของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หรือแม้แต่สตาร์ทีมชาติโปรตุเกสเองหยิบมาพูดถึงเมื่อถูกถามว่าใครเก่งกว่ากัน คำตอบที่ออกมาหลายครั้งหลายหนที่ถูกพูดก็คือ โรนัลโด้ คว้าแชมป์ไปทุกที่ที่ค้าแข้ง ส่วน ลิโอเนล เมสซี่ มีแค่กับที่ บาร์เซโลน่า อย่างเดียว
ถือเป็นคำถามถางที่หลายครั้งก็อับจนถ้อยคำที่จะตอบโต้ เพราะมันก็คือเรื่องจริง แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่นักเตะระดับเขาจะต้องพิสูจน์อะไรอีก
แต่มันก็เป็นอีกอย่างที่ติดอยู่ในใจนั่นแหละ
ฉะนั้นแล้วการย้ายไปเล่นในลีกอื่นและคว้าแชมป์น่าจะเป็นการใช้ฝีเท้าแทนคำตอบได้ เพื่อที่จะไม่ได้ถูกคำครหานี้มาพูดถึงอีก
แน่นอนว่าระดับ เมสซี่ ต้องย้ายไปอยู่กับทีมที่มีโอกาสได้แชมป์อยู่แล้ว โดยเฉพาะกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีข่าวว่าพร้อมอ้าแขนรับไปร่วมทีม ซึ่งหากมีแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกสักรายการอย่างน้อยก็สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าได้แชมป์มากกว่าหนึ่งลีก
ประสบความสำเร็จในแชมเปี้ยนส์ ลีก (อีกครั้ง)
นับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า จนถึงปัจจุบัน ลิโอเนล เมสซี่ คว้าโทรฟี่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกมาครองไปแล้วทั้งหมด 4 สมัยด้วยกัน
แต่อย่างที่รู้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้แชมป์รายการนี้ไป 5 สมัย เป็นอีกเรื่องที่แข้งทีมชาติโปรตุเกสเหนือกว่า
ที่สำคัญ “เจ้าบุญทุ่ม” ไม่ได้แชมป์รายการนี้มาแล้วนาน 5 ปี และหากมองจากขุมกำลังในปัจจุบันที่ทีมกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงคงไม่ก้าวไปถึงจุดสูงสุดได้ง่ายๆแน่
ถ้วยสำคัญอย่างยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่ว่าจะได้มาแล้วกี่สมัยยังไงก็ยังต้องการอยู่ แน่นอนว่า ลิโอเนล เมสซี่ ก็ต้องการเช่นเดียวกัน
กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เองถือว่ารายการนี้คือถ้วยที่ทีมปรารถนาที่สุดและต้องการทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้มาครอบครอง หนึ่งในนั้นคือการทุ่มเทคว้ายอดแข้งเพื่อเสริมทีมทำศึกสู้รายการนี้
แน่นอนว่าหากได้ ลิโอเนล เมสซี่ มาร่วมทีมจะยิ่งทำให้พวกเขาเหมือนกับเสือติดปีกและอาจจะก้าวกระโดดไปประสบความสำเร็จได้
อย่างน้อยก็อาจจะดูมีโอกาสมากกว่า บาร์เซโลน่า ในเร็วๆนี้
สร้างมรดกให้ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
ในฐานะนักเตะที่ได้รับการยกย่องว่าเก่งที่สุดตลอดกาล แต่ ลิโอเนล เมสซี่ ก็ยังมีมลทินอยู่บ้างกับความล้มเหลวของทีมในเวทียุโรปทั้งการแพ้ ลิเวอร์พูล เมื่อฤดูกาลที่แล้ว รวมถึงในปีนี้กับ บาเยิร์น มิวนิค
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในนามทีมชาติอาร์เจนติน่าซึ่งถือเป็นเรื่องที่เขายังไม่อาจที่จะก้าวข้ามขีดความสำเร็จจากสโมสรไปสู่ระดับนานาชาติได้ทั้งกับแชมป์ระดับทวีปหรือแชมป์โลกที่เป็นได้แค่พระรองเท่านั้น
จริงอยู่ทุกอย่างไม่อาจจะโยนให้ เมสซี่ เป็นผู้รักผิดชอบ แต่เมื่อคุณมีฝีเท้าระดับสุดยอด ย่อมต้องแบกความหวังไว้บนสองบ่า และเมื่อล้มเหลวย่อมต้องถูกหยิบขึ้นมาเป็นประเด็น
การย้ายออกไปค้าแข้งในต่างแดนเป็นครั้งแรกในเส้นทางอาชีพอาจจะช่วยผ่อนคลายความเครียดลงได้บ้าง การได้อยู่กับทีมใหม่ แวดล้อมใหม่ อาจจะมีความกดดันเหมือนกัน แต่การเปลี่ยนบรรยากาศก็ถือเป็นเรื่องดี
ไม่แน่ว่ามันอาจจะช่วยให้เขากลับมาเล่นฟุตบอลด้วยความสุขอีกครั้ง และอาจจะนำมาซึ่งผลงานที่ดีอีกครั้ง ซึ่งอาจจะส่งไปถึงทีมชาติในช่วงโค้งสุดท้ายของเส้นทางค้าแข้งได้
ให้บทเรียนกับ บาร์โตเมว และบอร์ด บาร์เซโลน่า
แน่นอนว่าความล้มเหลวของ บาร์เซโลน่า นอกจาก กีเก้ เซเตียน เทรนเนอร์ที่ต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ อีกคนที่โดนกระหน่ำอย่างหนักหนีไม่พ้น โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว
ความผิดหวังในซีซั่นนี้ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องเดียว ปัญหาส่วนตัวของประธานคนดังยังถูกหยิบยกขึ้นมาพูดในเรื่องของการฉ้อโกงภาษี, การซื้อตัวที่ล้มเหลวที่เซ็นสัญญากับผู้เล่นที่แพงโดยไใาจำเป็น ทำให้ทีมเจอกับปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน
เมสซี่ ย้ายทีมนั่นจะทำให้ บาร์โตเมว ถูกจารึกชื่อว่าเป็นประธานสโมสรที่ทำให้ทีมเสียสุดยอดนักเตะ ซึ่งคงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่
อย่างที่บอกว่าถ้าเกิดขึ้นจริงจะถือเป็นการให้บทเรียนที่สำคัญกับ บาร์โตเมว และบอร์ดบริหารของ บาร์เซโลน่า กับการวางแผนที่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิงจนทำให้สโมสรวุ่นวายอยู่ในขณะนี้
กับการพูดคุยที่เกิดขึ้นนั้นยังไม่ได้ข้อเสนอ ซึ่งรายงานเผยว่าทาง บาร์โตเมว เองพร้อมอำลาทีมหาก เมสซี่ ยอมอยู่กับทีมต่อ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจารึกชื่อในแง่ที่ไม่ได้น่าจดจำเท่าไรนัก
เพิ่มเติม >>> UFABETWINS
คลิกเลย >>> https://www.dhruva-automation.com/